9 พรรคก้าวสู่ปี 65: รปช. อาสาประสานเยาวชน หวังปั้นครัวไทยสู่ครัวอวกาศ
นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ โฆษก พรรครวมพลังประชาชาติไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษกับทีมข่าว News เนื่องในโอกาสส่งท้ายปีเก่า 2564 ต้อนรับปีใหม่ 2565 ถึงภาพรวมของพรรคตลอดหนึ่งปี และทิศทางการเมืองในปีหน้า
1.ผลงานของพรรคในปี 2564
ภาพรวมประสบความสำเร็จมากกว่าที่คาดหวังไว้ เนื่องจากพรรคมี ส.ส. แค่ 5 คน แต่ทำงานหนักกันพอสมควร พร้อมกับดูแลกระทรวงอีกหนึ่งกระทรวงคือกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตรกรรม (อ.ว.) รัฐมนตรีและทีมงานก็ทำงานได้ดีจนเป็นที่ยอมรับ เช่น ยกเลิกการ Retire ของนักศึกษาเพื่อให้สอดคล้องกับความจำเป็นของเด็กที่อาจจะต้องทำงานไปเรียนไป หรือบริหารจัดการเวลาของตัวเอง, ลดค่าเทอม 50%, โครงการ U2T จากหนึ่งมหาวิทยาลัยหนึ่งตำบลเป็น ‘ตำบลสู่มหาวิทยาลัย’ เพื่อให้เป็นที่พึ่งของประชาชน และกระจายองค์ความรู้ไปผนวกกับภูมิปัญญาของประชาชน อย่างเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ทำให้เกิดการจ้างงานนักศึกษา 45,000 คน และประชาชนทั่วไป 15,000 คน ใน 3,000 ตำบล, โรงพยาบาลสนามที่โรงเรียนแพทย์ในสังกัดกระทรวง อ.ว., และสนามวัคซีน อ.ว. ที่บริการวัคซีนสำหรับประชาชนใกล้เคียงมหาวิทยาลัย ด้าน ส.ส. เองก็ทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งกรรมธิการและไม่เคยขาดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ทั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายสุพล จุลใส ส.ส. ชุมพร ก็ลงไปช่วยเหลือน้ำท่วมและการระบาดของโควิด-19 ขณะที่สาขาพรรคก็รับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชนมาให้ ส.ส. นำไปหารือในสภา
นายเขตรัฐย้ำว่า แม้ว่าจะไม่ได้แกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่สามารถเอานโยบายทุกข้อที่หาเสียงไว้มาผลักดันให้เกิดได้ครบ แต่ 2 ข้อหลักที่พรรค รปช. ทำได้อย่างเป็นรูปธรรม คือ ปฏิรูปการศึกษา และเป็นพรรคการเมืองของประชาชน
2.สิ่งที่ยังไม่สำเร็จในปี 2564
เป้าหมายที่พรรคตั้งไว้ในปี 2564 คือทำให้เกิดการจ้างงานในทุกตำบลของประเทศไทย ด้วยโครงการ U2T ตอนนี้ทำไปได้ 3,000 ตำบล ซึ่งปีหน้าจะขยายไปอีก 4,000 ตำบลเพื่อให้ครอบคลุม 7,000 ตำบลทั่วประเทศ เพื่อให้เด็ก บัณฑิต และชาวบ้านเพื่อให้มีงานทำ ทั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การจ้างงานและจ่ายเงิน แต่ต้องการให้คนเหล่านี้ดึงศักยภาพของชุมชนขึ้นมา ดังนั้นโครงการนี้จะต้องยกระดับขึ้นอีกเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่แท้จริง
“เคยไปเจอน้องคนหนึ่ง จบจากราชภัฎ รู้สึกว่าตัวเองถูกด้อยค่า จบมาต้องเป็นครู อาชีพเดียว ไม่มีทางเลือก แต่ครั้งที่ผมไปลงพื้นที่กับบัณฑิตจบใหม่จากราชภัฎ เขามาเล่าว่าผมต้องการทำโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ให้กับชุมชน เพราะชาวบ้านบางครัวเรือนยังไม่มีไฟฟ้าใช้ วันนี้เขาได้โอกาสให้มาพัฒนาบ้านเกิดจากโครงการ U2T ผมสัมผัสได้ถึงไฟในตัวคนรุ่นใหม่ที่ต้องการพัฒนาบ้านเกิด”
ดังนั้นเป้าหมายที่วางไว้ในปีหน้าคือการทำให้ทุกภาคส่วนเดินหน้าไปด้วยกัน ทั้งภาครัฐ เอกชน สถานศึกษา และประชาชน เพื่อดึงศักยภาพของเด็กขึ้นมา
3.สิ่งที่พรรคอยากทำให้เกิดขึ้นในปี 2565
นายเขตรัฐ กล่าวว่า เราจะเดินหน้าปฏิรูปการศึกษาต่อไป เพราะที่ผ่านมาทุกวงสนทนาก็จะบอกว่า “ประเทศไทยติดขัดที่การศึกษา” ดังนั้นแม้ ส.ส. จะมีน้อย แต่เราจะพัฒนากระทรวง อ.ว. ให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ทั้งเอกชน และประชาชน ในการพัฒนาวิจัยและนวัตกรรม ขณะที่งานวิจัยและนวัตกรรมของไทยก้าวหน้าไปมาก แต่ไม่เคยทำ Marketing สุดท้ายงานวิจัยที่มีคุณค่าเหล่านี้ก็กลับไปทำกำไรให้บริษัทใหญ่ แต่ไม่ไปถึง SME ดังนั้นเป้าหมายคือทำยังไงให้งานวิจัยและนวัตกรรมที่คนไทยคิดค้นขึ้นมา ไปทำกำไรกับบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางด้วย นอกจากนั้นพรรค รปช. มีแนวทางที่จะผลักดันทั้งผ่านกระทรวงและผ่านกระบวนการนิติบัญญัติแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น
4.สถานการณ์การเมืองปี 2565 พรรคมีแนวทางที่จะพาประเทศออกจากความขัดแย้งทางการเมืองอย่างไร?
แม้ว่าพรรค รปช. จากภาพลักษณ์จะดูเหมือนสุดโตร่ง แต่ก็มีคนรุ่นใหม่มาร่วมทำงานมากขึ้น เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่มากขึ้น ที่ผ่านมา ความอัดอั้นที่มันเกิดขึ้นระหว่างคนรุ่นใหม่กับรัฐบาล เพราะเขารู้สึกว่าความคิดเขาถูกปิดกั้น และเสียงของเขาไม่มีคนได้ยิน แต่ตอนนี้พรรคเริ่มต้นโครงการ ‘โฆษก อ.ว.’ เชิญผู้นำนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยทั่วประเทศเข้ามาพูดคุย และให้พรรคเองทำความรู้จักและรับฟังเสียงของพวกเขา เราต้องการลดแรงกดดันที่ทำให้เขารู้สึกว่าเขาไม่ถูกรับฟัง
“เราพร้อมจะเปิดหู เปิดใจที่จะรับฟังพวกเขา และแก้ไขความเข้าใจผิดทั้งหมดที่อาจจะเคยมี”
ผมในฐานะอดีตอาจารย์จะใช้กระทรวงเป็นช่องต่อระหว่างนักศึกษาที่เคยออกไปประท้วง ให้เขาเห็นว่าที่นี่คือประตูที่เปิดอยู่และพร้อมให้เขาเข้ามาพูดคุยกับพี่ๆ เราไม่อยากให้น้องๆ เป็นนักประท้วงมืออาชีพ แต่อยากให้น้องๆ เป็นนักพัฒนาประเทศมืออาชีพ เราเองก็พร้อมที่จะเอาความคิดและความสามารถของน้องๆ ไปปรับเปลี่ยนเป็นแนวนโยบายและนำเสนอสู่คณะรัฐมนตรี
5.พรรคมีแนวทางจะแก้สถานการณ์เศรษฐกิจปี 2565 อย่างไร?
ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้อง เป็นนโยบายหลักของพรรคอยู่แล้ว เราต้องการให้ประชาชนหลุดพ้นเส้นความจน เราจะนำทรัพยากรทุกอย่างที่กระทรวงมีเข้ามาช่วยประชาชน ทั้งผ่านโครงการ U2T หรือผ่านพรรค รปช. เราต้องการล้างภาพที่เคยมองว่านักการเมืองต้องแก้ปัญหาระยะสั้นเท่านั้น ตอนนี้พรรคมองถึงปัญหาระยะกลาง และระยะยาว เช่น หากมีวัคซีนที่ผลิตโดยคนไทย ก็จะสร้างความภูมิใจและแรงบันดาลใจว่าคนไทยก็สามารถสร้างความสำเร็จได้ เราต้องการสร้าง Space Economy หรือเศรษฐกิจอวกาศ หลายประเทศทั่วโลกก็พร้อมร่วมมือและเข้ามาพูดคุย ไทยเองจะใช้จุดแข็งความเห็นครัวโลก ให้เป็นทั้งครัวโลกและครัวอวกาศ ดังนั้น Space Economy จะสร้างโอกาสและทำรายได้ใหม่ๆ ให้กับไทยอีกเป็นจำนวนมาก นอกจากเราจะได้รายได้แล้ว เรายังได้ความรู้ที่เราผลิตเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งใคร นอกจากนี้พื้นที่ภาคใต้เองก็มีความเหมาะสมเป็นพื้นที่ปล่อยกระสวยอวกาศ และเป็นจุดที่ให้ประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาใช้บริการ สร้างรายได้เข้าประเทศ
“เราไม่ต้องการทำเหมือนเดิม ถ้าทำซ้ำวนไปวนมาก็ไม่เรียนรู้ แต่เราพยายามถอดบทเรียน หารายได้เข้าประเทศ สนับสนุนรัฐบาล และเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้ประชาชน”
ผู้เขียน : อรรถชัย หาดอ้าน
