ผู้ก่อตั้ง Jason Cohen เริ่มต้น Nomad Caviar ในปี 2020 เมื่อเขาพบว่าตลาดขาดผู้จัดหาปลาคาวิยารคุณภาพสูงในปริมาณมากและราคาที่เหมาะสม “ฉันเคยจัดงานเลี้ยงให้เพื่อน แต่ก็ไม่สามารถหาปลาคาวิยารในปริมาณที่ฉันต้องการในราคาที่เหมาะสมได้” Jason กล่าว
แทนที่จะยอมสละการเสิร์ฟปลาคาวิยาร Jason ตัดสินใจสั่งซื้อปลาคาวิยารในปริมาณส่งเสริมการขายจากตัวแทนจําหน่าย โดยเริ่มจากการสั่งซื้อ 10 กิโลกรัม ต่อมาเพิ่มเป็น 30, 50 และ 70 กิโลกรัม ก่อนที่ Jason จะตัดสินใจก่อตั้งแบรนด์ปลาคาวิยารของตัวเองตามคําแนะนําของตัวแทนจําหน่าย
“ฉันได้พบสิ่งที่ตัวเองมีความสนใจ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าในฮ่องกงและทั่วโลก” Jason กล่าว “ดังนั้น Nomad Caviar จึงเริ่มต้นด้วยพันธกิจที่จะนําปลาคาวิยารคุณภาพสูงที่ได้มาตรฐานเกษตรกรรมจากแหล่งที่มาตรงไปยังลูกค้าของเรา”
ในปัจจุบัน Nomad Caviar จัดหาปลาคาวิยารจากแหล่งเพาะเลี้ยงที่ดีที่สุดทั่วจีน โดยตัดกลางมือ และทําให้การบริโภคปลาคาวิยารเป็นเรื่องปกติสําหรับผู้บริโภคที่อาจไม่สามารถจ่ายราคาปลาคาวิยารในปริมาณมากได้ โดยหนึ่งในเป้าหมายของบริษัทคือการเปลี่ยนทัศนคติของปลาคาวิยารจากการบริโภคบางครั้งเป็นอาหารประจําวัน
Jason อธิบายว่า “ที่ Nomad เราต้องการเปลี่ยนทัศนคติว่าปลาคาวิยารคืออาหารที่รับประทานด้วยส้อมเล็กๆ หรือใช้เป็นส่วนประกอบ เราไม่เห็นเช่นนั้น เราต้องการให้ลูกค้าของเราได้รับประสบการณ์การรับประทานปลาคาวิยารอย่างอิ่มเอมและอุดมสมบูรณ์ กับ Nomad Caviar คุณสามารถรับประทานปลาคาวิยารได้อย่างไม่มีขีดจํากัด”
ข้ออ้างของ Jason ได้รับการสนับสนุนจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เช่น ในช่วงปลายปี 1990 ปลาคาวิยารสามารถหาได้ในปริมาณมากถึง 500 กรัม ราคาเพียง 50 เหรียญสหรัฐ ในประเทศเช่น อาเซอร์ไบจาน ย้อนไปในอดีต ร้านกาแฟในสหรัฐอเมริกามักขายปลาคาวิยารเป็นอาหารว่างด้วยราคาเพียง 5 เซนต์ต่อชิ้น
การบริโภคปลาคาวิยารยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ชะลอความแก่ เนื่องจากมีโอเมกา-3 ซึ่งช่วยบํารุงผิว ยังเป็นแหล่งวิตามินบี12 แคลเซียม และสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ และชะลอความแก่
As previously announced Nomad Caviar สาขาสิงคโปร์เสนอปลาคาวิยารแบบ Kaluga Hybrid ในปริมาณมากต่างๆ ปลาคาวิยารแบบนี้มีเนื้อนุ่มละเอียด และรสชาติอร่อยลึกซึ้ง โดยมีกลิ่นปลาน้อยมาก
Jason ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บรักษาและบรรจุภัณฑ์ เขากล่าวว่า “เราแนะนําให้เก็บปลาคาวิยารที่ยังไม่ได้เปิดในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 0-2 องศาเซลเซียส ไม่เกิน 2 สัปดาห์ และหากเปิดแล้ว ให้เก็บในตู้เย็นในอุณหภูมิเดียวกัน ไม่เกิน 48 ชั่วโมง ไม่แนะนําให้ทําการแช่แข็ง เนื่องจากจะส่งผลต่อเนื้อสัมผ