(NASDAQ:PEP) พบว่าตนเองตกอยู่ในความยุ่งยาก เนื่องจากรอรับรถบรรทุก Tesla Semi ซึ่งสั่งซื้อล่วงหน้าตั้งแต่ปี 2017 ถึงแม้จะชำระเงินสำหรับรถบรรทุก Tesla Semi 100 คัน แต่ PepsiCo รายงานว่าใช้งานรถบรรทุกไฟฟ้าที่สั่งไว้เพียง 36 คัน ซึ่งเผยให้เห็นความท้าทายของ Tesla ในการเร่งการผลิต
การขาดแคลนแสดงให้เห็นถึงอุปสรรคที่ Tesla ต้องเผชิญในการที่จะเป็นผู้มีบทบาทหลักในอุตสาหกรรมการผลิต รถบรรทุก ในขณะที่รถบรรทุกไฟฟ้าของ Tesla ได้รับความสนใจอย่างมากจากบริษัทต่างๆ เช่น Sysco, UPS และ Walmart Canada แต่ความล่าช้าในการจัดส่งทำให้ลูกค้าเหล่านี้ต้องไปมองหาทางเลือกอื่นๆ จากผู้ผลิต รถบรรทุก ไฟฟ้าคู่แข่ง
การขาดแคลน Tesla Semi นี้เป็นเรื่องที่เปราะบางสำหรับ Tesla ซึ่งกำลังรับมือกับการเติบโตที่ชะลอตัวในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังมีรายงานเมื่อเร็วๆ นี้ที่บ่งชี้ว่า Tesla ได้ยกเลิกรถราคาประหยัดที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งยิ่งทำให้แนวโน้มการเติบโตของบริษัทซับซ้อนมากขึ้น
ความพยายามอย่างจริงจังของรัฐบาล Biden ในเรื่องรถยนต์ไฟฟ้ามีโอกาสให้เงินอุดหนุนแก่บริษัทอย่าง PepsiCo ที่นำมาตรการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม PepsiCo ได้รับเงินอุดหนุนและเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลจำนวนมากสำหรับรถบรรทุก Tesla Semi ซึ่งเน้นให้เห็นถึงความน่าสนใจของรถบรรทุกไฟฟ้าในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
แม้ว่า Tesla จะมีรถบรรทุก Semi เป็นของตัวเองที่ขนส่งระหว่างโรงงานต่างๆ แต่ความล่าช้าในการจัดส่งทำให้ลูกค้าจำนวนมาก รวมถึง PepsiCo ตกที่นั่งลำบาก ขณะที่ Tesla กำลังเผชิญความท้าทายด้านการผลิต PepsiCo กำลังพิจารณาตัวเลือกยานพาหนะไฟฟ้าอื่นๆ จากผู้ผลิต เช่น Daimler Truck ซึ่งมีรถบรรทุกไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่เทียบเท่า
แม้จะมีความล้มเหลว แต่ PepsiCo ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำให้รถบรรทุกของตนเป็นไฟฟ้าและสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นเพื่อรองรับยานพาหนะไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม ยังคงมีข้อกังวลในหมู่นักลงทุนเช่น Green Century Capital Management ซึ่งกระตุ้นให้ PepsiCo แก้ไขความล่าช้าและพิจารณาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในวงกว้าง
ในยุโรป บริษัทเช่น ASKO Norway กำลังนำรถบรรทุกไฟฟ้า Semi จากผู้ผลิตรายอื่นเข้ามาใช้ขณะที่รอการจัดส่งของ Tesla ซึ่งเน้นให้เห็นถึงความเร่งด่วนที่ Tesla ต้องรักษาคำมั่นสัญญาของตนทั่วโลก