Meta Stock: โอกาสการลงทุน AI ที่น่าสนใจจาก “Magnificent Seven”

(SeaPRwire) –   ด้วยการเติบโตของปัญญาประดิษฐ์ (AI) หุ้นของบริษัทเหล่านี้ได้กลายเป็นจุดสนใจหลักในตลาดหุ้น นักวิเคราะห์ไมเคิล ฮาร์ทเนตต์ จากธนาคารอเมริกา ได้ระบุบริษัทเทคโนโลยี 7 แห่งในสหรัฐอเมริกา ได้แก่ แอปเปิล (NASDAQ: AAPL), แอมะซอน (NASDAQ: AMZN), แอลฟาเบท (NASDAQ: GOOGL), เมต้า แพลตฟอร์ม (NASDAQ: META), ไมโครซอฟท์ (NASDAQ: MSFT), เอ็นวิเดีย (NASDAQ: NVDA) และเทสลา (NASDAQ: TSLA) ว่าเป็นตัวเลือกหลักในการลงทุนในยุคนี้ ขณะที่คลื่นลม AI ได้กระตุ้นให้การเติบโตของบริษัทเหล่านี้ แต่ความน่าสนใจของบริษัทเหล่านี้ก็ยังครอบคลุมนวัตกรรม การเป็นผู้นําตลาด และการเป็นบริษัทที่มีกําไรสูงอีกด้วย

ถึงแม้หุ้นของบริษัทเหล่านี้จะมีผลการดําเนินงานที่แตกต่างกันในปี 2567 แต่ เมต้า แพลตฟอร์ม (NASDAQ: META) ซึ่งเดิมชื่อ เฟซบุ๊ก นั้นมีผลการดําเนินงานที่โดดเด่นกว่า S&P 500 ดังนั้นเราจะมาดูเหตุผลที่ เมต้า แพลตฟอร์ม อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการลงทุนในบรรดา “บริษัท Magnificent Seven” ในขณะนี้

เมต้า แพลตฟอร์ม เข้าสู่กลุ่มบริษัทมูลค่าหนึ่งล้านล้านดอลลาร์

มูลค่าตลาดของ เมต้า แพลตฟอร์ม ได้เพิ่มขึ้นเป็น 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทําให้มั่นใจตําแหน่งของมันในกลุ่มบริษัทมูลค่าหนึ่งล้านล้านดอลลาร์ร่วมกับไจแอนต์เทคอื่นๆ ในตอนแรก เมต้า แพลตฟอร์ม เป็นที่รู้จักจากแพลตฟอร์มหลักของมันคือ เฟซบุ๊ก แต่ปัจจุบันมันมีแพลตฟอร์มสื่อสังคมที่ใช้อย่างแพร่หลายอย่างอินสตาแกรม วอตสแอป เมสเซนเจอร์ และทรีดส์ ด้วยผู้ใช้งานมากกว่า 3.1 พันล้านคนทั่วแอปพลิเคชันของมัน เมต้า แพลตฟอร์ม จึงมีอิทธิพลอย่างมากต่อผู้บริโภคและสามารถสร้างรายได้และกําไรได้อย่างมั่นคง

ในรายงานผลการดําเนินงานล่าสุด เมต้า แพลตฟอร์ม ได้รายได้ 39.0 พันล้านดอลลาร์จากกลุ่มแอปพลิเคชันสังคมของมัน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 97 ของรายได้รวม ถึงแม้ว่ากลุ่ม Reality Labs ซึ่งเน้นไปที่เมตาเวิร์สจะมีปัญหา แต่ เมต้า แพลตฟอร์ม ก็ยังสามารถเพิ่มรายได้ได้อย่างมีนัยสําคัญในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้จากยอดขายหน้ากากผสมผสานความเป็นจริง Quest 3

ขยายขอบเขตความสามารถของ AI และเพิ่มการเติบโตของรายได้

เมต้า แพลตฟอร์ม ยังคงนํานวัตกรรม AI มาใช้ในผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น แว่นตา Ray-Ban Meta Smart และสติกเกอร์ AI ที่สร้างสรรค์ได้อย่างสร้างสรรค์ นอกจากนี้กลุ่ม Reality Labs ของมันก็พร้อมที่จะเข้าสู่ตลาดเมตาเวิร์สซึ่งคาดว่าจะมีมูลค่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2573 บริษัทยังเห็นโอกาสในการสร้างรายได้จากแพลตฟอรม์เช่น WhatsApp Business และ Threads อีกด้วย

บทความนี้ให้บริการโดยผู้ให้บริการเนื้อหาภายนอก SeaPRwire (https://www.seaprwire.com/) ไม่ได้ให้การรับประกันหรือแถลงการณ์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบทความนี้

หมวดหมู่: ข่าวสําคัญ ข่าวประจําวัน

SeaPRwire จัดส่งข่าวประชาสัมพันธ์สดให้กับบริษัทและสถาบัน โดยมียอดการเข้าถึงสื่อกว่า 6,500 แห่ง 86,000 บรรณาธิการและนักข่าว และเดสก์ท็อปอาชีพ 3.5 ล้านเครื่องทั่ว 90 ประเทศ SeaPRwire รองรับการเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์เป็นภาษาอังกฤษ เกาหลี ญี่ปุ่น อาหรับ จีนตัวย่อ จีนตัวเต็ม เวียดนาม ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เยอรมัน รัสเซีย ฝรั่งเศส สเปน โปรตุเกส และภาษาอื่นๆ 

ในฐานะผู้นําตลาดสื่อสังคมรายใหญ่ เมต้า แพลตฟอร์ม พึ่งพารายได้จากโฆษณาอย่างมาก ซึ่งในปี 2566 มีมูลค่าถึง 131.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยความคาดหวังว่าตลาดโฆษณาจะฟื้นตัว เมต้า แพลตฟอร์ม จึงอยู่ในฐานะที่จะเพิ่มรายได้ได้อีกมากมาย นอกจากนี้ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทพร้อมกับโครงการแจกเงินปันผลและซื

Next Post

หัวหน้า UN เรียกร้องให้กลุ่มที่ทำสงครามในซูดานหยุดการสู้รบระหว่างเดือนรอมฎอนของชาวมุสลิม

(SeaPRwire) –   ผู้เลขาธิการองค์การสหประชาชาติได้ร้องขอให้ฝ่ายต่างๆในซูดานหยุดการปะทะกันระหว่างเดือนศักดิ์สิทธิ์รอมฎอนของศาสนาอิสลาม พลตรีอับเดล ฟัตตาห์ บูร์ฮาน ผู้นําของกองทัพซูดานซึ่งกําลังต่อสู้เพื่อควบคุมซูดานกับผู้บัญชาการฝ่ายตรงข้ามของกําลังติดอาวุธของประเทศ ต้อนรับข้อเรียกร้องพักรบระหว่ […]