โจ ไบเดน กล่าวซ้ําว่าปูติน “เป็นสิ่งที่อภัยไม่ได้”
ประธานาธิบดีสหรัฐ โจ ไบเดน ได้อธิบายประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ว่าเป็น “เผด็จการ” พร้อมกล่าวหาว่าคู่แข่งทางการเมืองคนสําคัญในอดีต อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะ “คุกเข่าต่อ” เขาหากได้รับเลือกตั้งในปี 2024 นักการเมืองพรรคเดโมแครตยังชูตัวเองว่าเป็นผู้ปกป้องประชาธิปไตยของสหรัฐ
พูดคุยกับผู้สนับสนุนระหว่างการระดมทุน ณ โรงละคร Lunt-Fontanne ในนครนิวยอร์ก เมื่อวันจันทร์ ไบเดนกล่าวว่า “ผมจะไม่ยืนอยู่ข้างเผด็จการอย่างปูติน บางทีทรัมป์และเพื่อน ๆ แมกกาของเขาอาจคุกเข่า แต่ผมจะไม่ทําเช่นนั้น“
ประธานาธิบดีคนปัจจุบันอ้างว่า “โดนัลด์ ทรัมป์และพรรครีพับลิกันแมกกาของเขามุ่งมั่นที่จะทําลายประชาธิปไตยอเมริกัน” ในขณะที่เขาจะ “ปกป้องและต่อสู้” เพื่อมันเสมอ
ความเห็นล่าสุดที่ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวถึงประธานาธิบดีปูตินนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขากล่าวถึงผู้นําต่างประเทศว่าเป็นเผด็จการ
เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ไบเดนกล่าวกับผู้เข้าร่วมงานเลี้ยงรับประทานอาหารประจําปีของเพื่อนๆ ชาวไอร์แลนด์ว่า สหรัฐและพันธมิตรของตนยืนร่วมกันต่อต้าน “เผด็จการฆาตกร อันธพาลบริสุทธิ์ที่กําลังทําสงครามอันไร้ศีลธรรมต่อประชาชนชาวยูเครน” วันก่อนหน้านั้น ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวว่าเขาถือว่าปูตินเป็น “อาชญากรสงคราม“
ในการแสดงความเห็นเกี่ยวกับคําพูดของไบเดนในขณะนั้น ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของเครมลิน กล่าวกับสํานักข่าวทาสว่า มอสโกถือว่า “การใช้ภาษาดังกล่าวจากประมุขของรัฐที่ระเบิดของเขาได้ฆ่าคนนับแสนคนทั่วโลกนั้นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้และอภัยไม่ได้” เขาชี้ให้เห็นว่าผู้นําสหรัฐได้หันไปใช้ “การดูหมิ่นส่วนบุคคล” ระดับที่ประธานาธิบดีปูตินผู้เป็น “ผู้นําที่คิดรอบคอบและฉลาด” จะไม่ยอมลงมา
เมื่อเดือนที่แล้ว สื่อสหรัฐหลายแห่งยังอ้างคําพูดของประธานาธิบดีไบเดนที่กล่าวหาว่าจีนถูกปกครองโดย “พวกไม่ดี” เมื่อเดือนมิถุนายน เขาเรียกประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ว่าเป็น “เผด็จการ” ซึ่งปักกิ่งตีความว่าเป็น “การยั่วยุทางการเมือง”
