เป็นการล้วงความลับเรื่องหัวใจ ของนางเอกเนื้อหอม แอฟ ทักษอร ผ่านรายการ หอมปากหอมคอ ดำเนินรายการโดย ต้นหอม ศกุนตลา ซึ่งมีความสนิทสนมกันจากการร่วมงานละครเรื่อง แค้น และในบางช่วงบางตอน ทั้งสองคนได้คุยพูดถึงสเปกผู้ชายแบบไหน ที่ทำให้นางเอกระดับแถวหน้าแพ้ทางได้
ด้าน แอฟ เผยว่า “จริงๆ ตั้งแต่เด็กๆ ไม่เคยมีสเปกเลย ไม่เคยตั้งโจทย์ไว้ก่อนแล้วไปหามาให้ตรงกับโจทย์ รู้สึกว่าเจอก็เจอใช่ก็ใช่ บางคนเจอก็ไม่รู้สึกเลยทันที แต่คุยไปแล้วรู้สึกดี ส่วนใหญ่จะเป็นอย่างนั้น ถามว่ามีใครในใจ คือตั้งแต่เด็กๆ ก็ไม่ได้รู้สึกว่า อุ้ย ตายแล้ว ทำไมคนนั้อยากเป็นแฟนด้วยจัง ไม่มี”
นิสัยผู้ชายแบบไหนที่แพ้ทาง ?
แอฟ ตอบว่า “ก็หลายอย่าง สุภาพบุรุษแน่นอน ผู้ชายโรแมนติกชอบ แต่สุดท้ายถ้าไม่ได้โรแมนติกก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยต้องเป็นคนดี ซื่อสัตย์ ให้เกียรติ อันนี้แอฟว่ามันสำคัญกว่า และใหญ่กว่าเรื่องโรแมนติก ถ้าโรแมนติกได้ก็ดี ตอนนี้โตขึ้นรู้แล้วว่า ความโรแมนติก หรือความหวือหวา มันเป็นแค่เอ็กตร้า”
เด็กกว่าหรือแก่กว่า ?
นางเอกดังบอกว่า “จริงๆ ไม่ได้กำหนดอายุ” ต้นหอม จึงถามต่อว่า “ยิ่งพอเราอายุมากๆ เราสามารถมองเด็กได้แบบเด็กลงๆ ได้อีก เด็กสุดได้แค่ไหน” แอฟ ตอบทันทีว่า “อันลิมิต” ทำเอาพิธีกรอย่างต้นหอมหัวเราะเขินลั่นเลยทีเดียว
ก่อนที่ แอฟ จะเสริมต่อว่า “มันขึ้นอยู่กับว่ามันแค่ไหน จริงๆ ถ้าสมมติแค่คุยเราจะมีกำหนดเชียวเหรอว่าเราจะคุยกับเด็กอายุต่ำกว่าเท่าไหร่ไม่ได้ การคุยกับคนไม่ว่าจะหญิงหรือชาย ต้องได้อะไรสักอย่าง ไม่ได้ความสุข ความสบายใจ เราต้องได้เอ็นเนอจี้อะไรบางอย่าง มันต้องอัพขึ้น”
วันนี้มีคนคุยหรือยัง คนที่คุยแล้วรู้สึกสบายใจเป็นเอนเนอจี้ให้กับเรา ?
แอฟ บอก “ไม่เห็นมีรายการไหนกล้าถามแบบนี้เลยอะ” ต้นหอม รีบแก้ตัว “ก็เดี๋ยวไปตัดออก ออกอากาศ (หัวเราะ) ไม่ได้หมายความว่าเป็นแฟนนะ เอ็นเนอจี้หมายถึงว่าไม่ได้เป็นแฟน หมายถึงคุยคนนี้แล้วสบายใจ เออ หมายถึงของเราแค่คุยแล้วสบายใจ ถ้าจะเป็นแฟนไม่ได้ ไม่พร้อม”
แอฟ เสริมต่อ “นั่นไงคนยุคนี้จะอยู่สเตจนี้กันหมดเลย มีคุยค่ะ จริงๆ ตลอดมาไม่เคยปิดกั้นอะไรเลยอยู่แล้ว แต่ปรากฏว่ามันแปลกมากเลย วันก่อนเพิ่งพูดกับเพื่อนสนิทว่า เฮ้ย แปลกนะ คืออยู่ๆ เราก็รู้สึกเรามีทั้งเพื่อนและคนคุยรวมกัน คือมันเยอะกว่าตอนเด็กๆ เยอะมากๆ ทำไมไม่เป็นแบบนี้ตั้งแต่ตอนเด็กๆ
ก็พูดเล่นๆ กับเพื่อนว่า พระเจ้าแกล้งกันทำไมไม่อยู่ตอนนี้ตอน 20 กว่า ไม่ใช่ตอน 40 แต่พอเรากลับมานั่งดูตัวเอง เรารู้สึกว่าหรือว่าจริงๆ มันเป็นที่เอ็นเนอจี้ของเรานี่แหละ เมื่อก่อนเราอาจจะไม่ได้เปิดโอกาส เราด้วยอะไรก็ไม่รู้ มันเป็นเอ็นเนอจี้แอฟรู้สึกถ้าคนมาอยู่ใกล้ๆ เขาก็ไม่ได้กล้าคุย”
มันยังไม่ตกผลึกตอนเราใช้ชีวิตวัยเด็กมันเป็นเรื่องการเก็บประสบการณ์อะไรต่างๆ ?
แอฟ ยอมรับว่า “แอฟรู้สึกว่าแอฟเพิ่งเริ่มสตาร์ตตอนประมาณ 29 เรารู้สึกมั่นใจ มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ จน 40 เรารู้สึกมั่นใจจนถึงจุดที่เรามีความสุข เรามีความมั่นใจ พอมี่ความสุขความมั่นใจเรารู้สึกเบา เบาไม่ได้แปลไม่ให้ค่าคนอื่นๆ หรือไม่สนความคิดของคนอื่นที่มองเรานะ แค่เรารู้สึกว่า เรารับฟัง แต่เราฟังด้วยความเข้าใจ และเราก็พยายามปล่อยมันไป มันอาจจะไม่ได้ 100% แต่ว่ามันรู้สึกเบาขึ้นไงไม่รู้ แล้วพอเรารู้สึกเบาๆ เป็นเอ็นเนอจี้คนเข้าถึงได้”
มันเหมือนมีพลังของความรักตัวเอง พอเรารักตัวเองมันเหมือนมีสเน่ห์อะไรบางอย่าง ?
นางเอกคนสวยบอกว่า “ตอนนี้ก็เลยรู้แล้วว่า มันไม่ใช่เรื่องแค่ พูดตรงๆ ไม่ใช่แค่เรื่องผู้ชายมาจีบ แต่ต่อให้เราอยู่ในกอง เราเจอใคร คนก็สบายใจที่จะคุยกับเรา”
จากนั้น ต้นหอม ได้ทิ้งท้ายว่า “เดี๋ยววันหนึ่งจะเชิญมาอีกครั้ง วันที่คุยแล้วพัฒนาเป็นแฟนแล้ว”
