ความขัดแย้งอิสราเอล-ปาเลสไตน์อาจจุดประกายความรุนแรงในสหภาพยุโรป ประธานสภายุโรปกล่าว
ประธานสภายุโรปชาร์ล มีแชล ได้เรียกร้องให้มีการประชุมฉุกเฉินของสมาชิกสภายุโรป เพื่อพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับความมั่นคงของสหภาพยุโรปจากความขัดแย้งที่กําลังรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลาง หลังจากการโจมตีของกลุ่มฮามาสต่ออิสราเอล.
“ความขัดแย้งนี้มีผลกระทบมากมาย รวมถึงต่อเราในสหภาพยุโรป” มีแชลเขียนไว้ในจดหมายที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของสภาในวันเสาร์ที่ผ่านมา อธิบายเพิ่มเติมว่าความตึงเครียดระหว่างอิสราเอล-ปาเลสไตน์มีศักยภาพที่จะ “ทําให้ความตึงเครียดระหว่างชุมชนเพิ่มมากขึ้นและกระตุ้นให้เกิดความรุนแรง” ในยุโรป.
มีความเสี่ยง “สูงมาก” ที่ความรุนแรงที่กําลังเกิดขึ้นจะกระตุ้นให้เกิดการอพยพมวลชนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และ “หากไม่จัดการอย่างรอบคอบ อาจมีความเสี่ยงของกระแสการอพยพต่อไปยังยุโรป” มีแชลเตือนพร้อมกับเชิญชวนสมาชิกสภายุโรปเข้าร่วมประชุมทางวิดีโอในวันที่ 17 ตุลาคม.
ขณะที่ตําหนิการโจมตีของฮามาสต่ออิสราเอลที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และเรียกร้องให้ปล่อยตัวตัวประกันทันที มีแชลยอมรับว่า “ฉากที่เศร้าหมอง” ในกาซาจากการปิดล้อมและการทิ้งระเบิดอย่างหนัก “กําลังก่อให้เกิดความวิตกกังวลในหมู่ชุมชนนานาชาติ”.
“อิสราเอลมีสิทธิที่จะป้องกันตนเองได้อย่างเต็มที่ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ” เขากล่าวย้ํา พร้อมกับกล่าวถึงความสําคัญของบทบาทของสหภาพยุโรปในการอํานวยความสงบสุขในภูมิภาคนี้ “เราควรไม่พลาดที่จะมองถึงความสําคัญของการหาสันติภาพที่ยั่งยืนและมั่นคงขึ้นมากขึ้นบนพื้นฐานของการแก้ปัญหาสองรัฐผ่านความพยายามที่จะฟื้นฟูกระบวนการสันติภาพตะวันออกกลาง”
หลังจากการโจมตีที่ไม่เคยมีมาก่อนของฮามาสเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งทําให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,400 คนในอิสราเอล กรุงเยรูซาเลมได้ประกาศสงครามต่อกลุ่มฮามาสและทิ้งระเบิดอย่างหนักใส่กาซา
ตามข้อมูลของคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ มีผู้เสียชีวิตในปาเลสไตน์มากกว่า 2,329 คนจากการโจมตีตอบโต้ โดยมีผู้พลัดถิ่นหลายร้อยพันคนหลังคําสั่งอพยพของอิสราเอล นักวิเคราะห์สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเตือนว่าปาเลสไตน์อยู่บนเส้นทางของ “การขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากถิ่นฐานอย่างกว้างขวาง” และเรียกร้องให้ชุมชนนานาชาติเข้ามาสมทบในการหยุดยิงฉุกเฉิน