รายงานจาก South China Morning Post ระบุว่า JD Technology ซึ่งเป็นสาขาฟินเทคของบริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีน JD.com Inc. มีแนวโน้มที่จะถอนคำร้องสำหรับการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรก หรือ IPO ในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ เป็นสัญญาณล่าสุดที่แสดงให้เห็นถึงความกลัวการควบคุมอย่างเข้มงวดของรัฐบาลจีนต่ออุตสาหกรรมการเงินออนไลน์ที่กำลังเติบโต และความกลัวนี้ทำให้ตลาดหุ้นของจีนมีปฏิกริยาด้านลบไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ก่อนที่สัญญาณจะเป็นรูปธรรมในสัปดาห์นี้
SCMP กล่าวโดยอ้างถึงแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยตัวตน 2 รายวว่า JD Technology (ชื่อเดิมเรียกว่า JD Digits) กำลังพิจารณาที่จะถอนตัวจาก IPO เนื่องจาก “สถานการณ์ทางธุรกิจที่เปลี่ยนไป” หลังจากที่จีนสกัดกั้นการเสนอขายหุ้นของบริษัท Ant Group Co.ของแจ็ค หม่า ในเดือนพฤศจิกายน ทำให้การขายหุ้นครั้งแรกของฟินเทคที่ใหญ่ที่สุดต้องสะดุดลง พร้อมกับที่แจ็ค หม่าเก็บตัวเงียบและตามด้วยการที่รัฐบาลจีนประกาศมาตรการควบคุมการผูกขาดของบริษัทต่างๆ
รายงานของ SCMP ระบุว่า JD Technology ต้องการระดมทุนประมาณ 20,000 ล้านหยวน (3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ) และอาจส่งคำร้องขายหุ้นครั้งใหม่อีกครั้งในอนาคต หุ้น JD.com ลดลง 5% ในฮ่องกงเมื่อวันจันทร์
อุตสาหกรรมฟินเทคของจีนเผชิญกับการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เข้มงวดมากขึ้นจากรัฐบาลนับตั้งแต่มีการเปิดตัวกฎระเบียบใหม่เกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อของผู้บริโภคในเดือนพฤศจิกายนซึ่งนำไปสู่การระงับการเสนอขายหุ้นของบริษัท Ant Group Co.ของแจ็ค หม่า อย่างกะทันหันที่วางแผนไว้ว่าจะระดมทุน 35,000 ล้านเหรียญสหรัฐในตลาดหุ้นฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้
- แจ็ค หม่าไม่พึงปรารถนา? สื่อของรัฐไม่เอ่ยชื่อในกลุ่มเศรษฐีคนดัง
- เมื่อ 'แจ็ค หม่า' ไม่ใช่ไอดอลของชาวจีนอีกต่อไป
การตั้งกฎระเบียบใหม่บังคับให้บริษัทฟินเทคต้องทบทวนการเสนอขายหุ้น IPO ของตนใหม่และระดมเงินเพื่อปฏิบัติตามกฎที่กำหนดให้บริษัทให้กู้ยืมออนไลน์จัดหาเงินทุน 30% สำหรับเงินกู้ ก่อนหน้านี้ บริษัท อย่าง Ant Group Co. ของแจ็ค หม่า และ Lufax Holding Ltd. ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านฟินเทคของ Ping An Insurance Group Co. มีสัดส่วนความเสี่ยงด้านเครดิตเพียง 2%
ต่อมา Lufax Holding Ltd. ซึ่งจดทะเบียนในตลาดนิวยอร์กเมื่อปลายเดือนตุลาคมก่อนที่รัฐบาลจีนจะเปิดตัวการปราบปราม ได้เตือนนักลงทุนก่อนการเสนอขายหุ้น IPO ว่ามีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนความเสี่ยงด้านเครดิตเป็น 20% จาก 2 % เนื่องจากแนวโน้มที่รัฐบาลจีนจะควบคุมอย่างเข้มงวดมากขึ้น
Photo by WANG Zhao / AFP