(SeaPRwire) – สมาชิกวุฒิสภาโทม คอตตัน พรรครีพับลิกันจากรัฐอาร์คันซอกล่าวว่ารัฐบาลไบเดนต้องมีท่าทีที่เข้มงวดต่ออิหร่านมากขึ้น และต้องมี “การตอบโต้ที่รุนแรงมาก” เพื่อหยุดการโจมตีต่อสินทรัพย์ของสหรัฐ
“ตั้งแต่โจ ไบเดนเข้ารับตําแหน่ง อิหร่านได้โจมตีตําแหน่งของอเมริกันในตะวันออกกลางกว่า 150 ครั้งแล้ว” คอตตันกล่าวกับ
สมาชิกวุฒิสภาพรรครีพับลิกันเพิ่มเติมว่าสหรัฐตอบโต้เพียงไม่กี่ครั้ง และไม่ใช่เป้าหมายที่เขาจะสั่งการหากเป็นผู้บัญชาการสูงสุด คอตตันกล่าวว่าเขาจะเสนอโจมตีชาวอิหร่านที่ดําเนินกิจกรรมอยู่ใน
“ฉันจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนต่ออิหร่านว่าถ้าการโจมตีเหล่านี้ไม่หยุดทันที ฉันจะเริ่มขู่ว่าจะเข้าใกล้ทรัพย์สินของพวกเขา” คอตตันกล่าว อ้างถึงเมื่อประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกนจมเรือรบครึ่งหนึ่งของอิหร่านเพราะโจมตีเรือรบของสหรัฐ
สมาชิกวุฒิสภาเชื่อว่าประธานาธิบดีไบเดนต้องการ “หลีกเลี่ยงการบาดเจ็บของอิหร่าน” และไม่มี “การควบคุมการขยายตัวเหนือระบอบที่สนับสนุนการก่อการร้ายเช่นอิหร่าน”
ในขณะเดียวกัน ส.ส.เจค ออชินคลอสส์ พรรคเดโมแครตจากรัฐแมสซาชูเซตส์กล่าวว่ารัฐบาลไบเดนมีท่าทีที่ “เข้มงวด” ต่ออิหร่าน
“พวกเขาได้นําเสนอมาตรการลงโทษใหม่เกือบ 50 ฉบับที่ช่วยนําไปสู่อัตราเงินเฟ้อในเศรษฐกิจอิหร่านเกือบร้อยละ 50 ในปัจจุบัน” ออชินคลอสส์กล่าว
เขาเพิ่มเติมว่า “สิ่งที่อิหร่านกลัวมากกว่าการปฏิบัติการทางทหาร มาตรการเศรษฐกิจ คือการโดดเดี่ยวทางการเมืองผ่านข้อตกลงอับราฮัม” ข้อตกลงนี้เป็นการลงนามระหว่างอิสราเลลกับประเทศอาหรับหลายประเทศเมื่อ 3 ปีก่อน
“ข้อตกลงอับราฮัมเป็นการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในตะวันออกกลาง โดยให้โอกาสใหม่สําหรับการติดต่อทางตรง การแลกเปลี่ยนระหว่างบุคคล ความร่วมมือทางธุรกิจ และข้อตกลงระหว่างรัฐบาลซึ่งนําไปสู่การลงทุนและการเติบโตในพื้นที่นี้” เว็บไซต์ของอเมริกันเยวิชคอมมิตตี้ระบุ
“หากเราตามทางสายสงครามของพรรครีพับลิกันในตะวันออกกลาง สิ่งที่เราจะสิ้นสุดลงคือสงครามอันไร้ที่สิ้นสุดอีกครั้งในภูมิภาคนั้น” ออชินคลอสส์กล่าว ซึ่งเขาเคยปฏิบัติหน้าที่ในอัฟกานิสถานในปี 2012
บทความนี้ให้บริการโดยผู้ให้บริการเนื้อหาภายนอก SeaPRwire (https://www.seaprwire.com/) ไม่ได้ให้การรับประกันหรือแถลงการณ์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบทความนี้
หมวดหมู่: ข่าวสําคัญ ข่าวประจําวัน
SeaPRwire ให้บริการกระจายข่าวประชาสัมพันธ์แก่ลูกค้าทั่วโลกในหลายภาษา(MiddleEast, Singapore, Hong Kong, Vietnam, Thailand, Taiwan, Malaysia, Indonesia, Philippines, Germany, Russia, and others)