น.ส.กัณญภัค ตันติพิพัฒนพงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า แนวโน้มการส่งออกไทยเริ่มปรับตัวดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจโลก โดยการส่งออกเดือนมกราคม 2564 มีมูลค่า 19,706 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 0.35% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2
ขณะที่การนำเข้าเดือนมกราคม 2564 มีมูลค่า 19,908 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 5.24% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้ประเทศไทยขาดดุลการค้า 202.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในปีนี้คาดเป้าหมายการส่งออกไทยอยู่ที่ 3-4%
ทั้งปัจจัยบวกที่จะผลักดันการส่งออกของไทย ได้แก่1.เศรษฐกิจและการค้าโลกที่มีแนวโน้มฟื้นตัว2.ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกกลับมาสู่ขาขึ้นอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อการส่งออกกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับราคาน้ำมัน อาทิ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ น้ำมันสำเร็จรูป
3.ความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากการเข้าถึงวัคซีนของประชาชนในหลายประเทศ ส่งผลต่อการฟื้นตัวของกิจกรรมเศรษฐกิจการค้า และธุรกิจของประเทศคู่ค้าได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่ยังต้องติดตาม คือ 1. ปัญหาตู้สินค้าขาดแคลน ที่ยังประสบปัญหาในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 และค่าระวางเรือปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- บลจ.กสิกรไทย ลุยส่ง Term Fund Plus ลงทุน 1 ปี
- เศรษฐกิจโลกฟื้น-วัคซีนเรียกเชื่อมั่น ดันส่งออกโต 0.35%
2.ค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง ตามทิศทางของสกุลเงินภูมิภาค และ 3. แนวโน้มการขาดแคลนแรงงานต่างด้าวของภาคอุตสาหกรรม สืบเนื่องจากการอพยพกลับประเทศของแรงงานต่างด้าวจำนวนมากในช่วงปลายปี 2563 เป็นต้นมา โดยเฉพาะแรงงานเมียนมาร์
อย่างไรก็ตามสรท.ได้จัดทำข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาล ได้แก่1. ขอให้ผ่อนปรนมาตรการต่ออายุการแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทย ให้สามารถทำงานต่อเนื่องในปี 2564 เพื่อให้มีแรงงานเพียงพอต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง
2.เร่งแก้ไขปัญหาตู้สินค้าขาดแคลน โดยภาครัฐต้องให้การสนับสนุนให้ผู้ส่งออกไทย ขอให้ภาครัฐเช่าเรือและสนับสนุนค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อขนส่งตู้คอนเทนเนอร์เปล่าที่ตกค้างในต่างประเทศกลับมาให้ผู้ส่งออกไทย
และ3.ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ต้องเร่งรักษาเสถียรภาพค่าเงินบาทและใช้มาตรการทางการเงินเพื่อลดความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อไม่เป็นการซ้ำเติมการส่งออก
ด้านนายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสรท. กล่าวว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในประเทศไทยไม่ได้ล่าช้าเกินไป และเป็นเรื่องที่ดีที่ได้ดูผลการฉีดวัคซีนในต่างประเทศก่อน ทั้งในแง่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวทำให้มียอดสั่งซื้อที่หดหายไปก่อนหน้านี้กลับมาเพิ่มขึ้น