สหรัฐอเมริกาเป็นปัญหาความไม่มั่นคงของโลกที่ร้ายแรงที่สุด แต่มันกลับประกาศตัวเองว่าเป็นคําตอบ

(SeaPRwire) –   สงครามอิสราเอล-ฮามาสแสดงให้เห็นว่าวอชิงตันเป็นกําลังที่ทําลายความมั่นคงที่สุดในโลก แต่มันกลับประกาศตนว่าเป็นผู้แก้ปัญหา

การโจมตีของอิสราเอลต่อกาซา และการกระทําของชาวอิสราเอลผู้ตั้งถิ่นฐานในเวสต์แบงก์ซึ่งถูกยึดครองมานาน ควรเป็นการตื่นตัว

มีผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์มากกว่า 11,000 คน รวมถึงเด็กประมาณ 4,650 คน จากสงครามที่เริ่มขึ้นเพื่อตอบโต้การโจมตีของฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งทําให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,200 คน

ชุมชนนานาชาติที่ยุติธรรมครึ่งหนึ่งควรเข้ามาคุ้มครองผู้ถูกทําร้ายจากการตอบโต้ของอิสราเอลซึ่งมีขนาดไม่สัมพันธ์กันและมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และอาชญากรรมสงคราม ความล้มเหลวในการกระทําเช่นนี้แสดงถึงความเอนเอียงและความผิดพลาดทางการเมืองอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม มีอีกมุมมองหนึ่งของวิกฤตการณ์นี้ซึ่งได้รับความสนใจน้อยกว่าควร คือ ความล้มเหลวของโลกในการกีดกันการกระทําของอิสราเอลเนื่องจากการกระทําของโลกตะวันตกเพียงส่วนเดียว และโลกตะวันตกตามนําของสหรัฐอเมริกา

ทางทฤษฎี ผู้ที่ไม่ยืนหยัดเพื่อผู้ถูกทําร้ายจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หรือยิ่งกว่านั้นยังยืนอยู่ข้างผู้กระทําผิดนั้นมีความรับผิดชอบต่อการล้มเหลวของตนเอง แต่จากมุมมองอํานาจ พฤติกรรมของสหรัฐอเมริกามีความสําคัญอย่างยิ่ง จนถ้าสหรัฐอเมริกาปฏิบัติแตกต่างไปและกีดกันอิสราเอล เพื่อนพ้องและลูกค้าของตนก็คงต้องปฏิบัติตาม

แต่ในความเป็นจริง การกระทําของรัฐบาลไบเดนได้หยุดยั้งผู้ใดที่อาจจะต้องการเข้าไปมีส่วนในการกีดกันอิสราเอล สหรัฐอเมริกายังส่งอาวุธ กระสุนปืน ข้อมูลข่าวกรอง และการสนับสนุนจากกําลังพิเศษ และให้การสนับสนุนทางการทูตอีกด้วย

นําไปสู่ข้อเท็จจริงอีกประการหนึ่งที่เราต้องตื่นตัว คือ ภัยคุกคามต่อระบบระเบียบโลกที่เป็นธรรมและเสถียรภาพน้อยที่สุดคือสหรัฐอเมริกา ไม่ใช่ข้อกล่าวหาทางการเมือง แต่เป็นการวิเคราะห์อย่างเป็นกลางจากพฤติกรรมของสหรัฐอเมริกาตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็นเป็นต้นมา

สหรัฐอเมริกาสามารถรบกวนความสงบได้เนื่องจากความสามารถทางเศรษฐกิจและทางทหารที่มหาศาล ปัจจุบันสหรัฐอเมริกายังคิดเป็นอย่างน้อย 13.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมโลกตามกําลังซื้อ ซึ่งเป็นอันดับสองรองจากจีน แต่ยังคงอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้ต่อหัวสูงสุด และยังคงมีสิทธิพิเศษในการกู้เงินในระบบดอลลาร์ได้ถูกกว่าประเทศอื่น

มีหลักฐานชัดเจนว่าอิทธิพลของสหรัฐอเมริกามีผลกระทบอย่างรุนแรง ตามวารสารอนุรักษนิยม The National Interest ระหว่างปี 2535-2562 สหรัฐอเมริกาเข้าไปมีส่วนร่วมใน “การแทรกแซงทางทหาร” 188 ครั้ง และตามนักวิจารณ์การเมืองฝ่ายซ้าย เบน นอร์ตัน พบว่ามีการแทรกแซงมากกว่า 200 ครั้งหลังปี 2534

บทความนี้ให้บริการโดยผู้ให้บริการเนื้อหาภายนอก SeaPRwire (https://www.seaprwire.com/) ไม่ได้ให้การรับประกันหรือแถลงการณ์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบทความนี้

หมวดหมู่: ข่าวสําคัญ ข่าวประจําวัน

SeaPRwire ให้บริการกระจายข่าวประชาสัมพันธ์แก่ลูกค้าทั่วโลกในหลายภาษา(Hong Kong: AsiaExcite, TIHongKong; Singapore: SingdaoTimes, SingaporeEra, AsiaEase; Thailand: THNewson, THNewswire; Indonesia: IDNewsZone, LiveBerita; Philippines: PHTune, PHHit, PHBizNews; Malaysia: DataDurian, PressMalaysia; Vietnam: VNWindow, PressVN; Arab: DubaiLite, HunaTimes; Taiwan: EAStory, TaiwanPR; Germany: NachMedia, dePresseNow) 

สหรัฐอเมริกาไม่เพียงแต่มีแนวโน้มใช้กําลังทหารเพื่อปกป้องผลประโยชน์ต่างประเทศ แต่ยังเร่งรัดการใช้กําลังมากขึ้น ตามการศึกษาของศูนย์ศึกษาการศึกษายุ

Next Post

ปาเลสไตน์เชื่อว่าพวกเขาไม่สามารถอยู่ร่วมกับอิสราเอลได้ - สํารวจ

(SeaPRwire) –   ชาวปาเลสไตน์หลายคนกล่าวว่าไม่สามารถอยู่ร่วมกับอิสราเอลได้ – สํารวจ จํานวนมากของชาวปาเลสไตน์ที่อาศัยอยู่ในเวสต์แบงก์และกาซากล่าวว่า ไม่มีวันที่พวกเขาจะสามารถอยู่ร่วมกับอิสราเอลได้อย่างสันติสุขตามผลการสํารวจ เขตกาซาที่มีความหนาแน่นของประชากรสูงได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการทิ้ง […]