“สมศักดิ์” ยันแพ้เลือกตั้งซ่อมไม่ใช่เพราะชื่อพรรค ไร้กังวล “ธรรมนัส” ทำรัฐบาลป่วน

“สมศักดิ์” ยัน พปชร.เปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว ย้ำแพ้เลือกตั้งซ่อมไม่ใช่เพราะชื่อพรรค ยอมรับต้องใช้เวลาปรับแนวทางไปสู่เป้าหมายที่แท้จริง

วันนี้ (2 ก.พ.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะแกนนำพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่าเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคพลังประชารัฐ อยู่ในช่วงขาลง จะเป็นพรรคต่ำ 50 หากพลังประชารัฐไม่มีการเปลี่ยนแปลง ว่า ภายในพรรคเปลี่ยนแปลงกันมากแล้วในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ และผลการเลือกตั้งซ่อม กทม. เขต 9 ที่ออกมา กับสิ่งที่เขาปรับเปลี่ยนปรับปรุง ก็คิดว่าได้แก้ปัญหาไปแล้ว ต่อไปต้องรอเวลาทั้งของรัฐบาลและรัฐสภา ที่ยังมีเวลาอีกกว่า 1 ปี 2 เดือน ที่จะทำให้เกิดความเข้าใจในสิ่งที่คนไม่เข้าใจ คนในพรรคก็จะเข้าสู่หมวดการเมืองอย่างแท้จริง

ส่วนเรื่องคะแนนนิยมของพรรคพลังประชารัฐตกลงนั้น ก็ต้องบอกว่ามันเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว สิ่งที่เป็นผลในอดีตก็ได้ปรากฏให้เห็น แล้วแต่คนมอง ตนเชื่อว่าหัวหน้าพรรคคงจะเข้าใจอะไรมากมาย และคงจะต้องก้าวเดินต่อไป จะถอยหลังหรือหยุดไม่ได้

พร้อมย้ำว่าการแพ้เลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ไม่ได้แพ้เพราะชื่อพรรค แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต้องทำความเข้าใจ จะขยับปรับเปลี่ยนหรือไม่ก็ยังต้องเดินต่อไปให้ได้ ต้องใช้เวลาที่เหลืออยู่ปรับแนวทางไปสู่เป้าหมายที่แท้จริง

ชี้เรื่องเล็ก “ธรรมนัส” โพสต์ศัตรูของศัตรูคือมิตร ไม่กังวลทำเสถียรภาพรัฐบาลสั่นคลอน

นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ระบุข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ศัตรูของศัตรูคือมิตร นั้น ตนมองเป็นเรื่องเล็กๆ ตนไม่สนใจ ส่วนกังวลหรือไม่ว่า ส.ส. 21 คนที่ออกไปจะทำให้เสถียรภาพรัฐบาลสั่นคลอน ตนคิดว่าเรื่องจริงอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่คิด และทุกคนมีสิทธิ์คิด

ทั้งนี้ การกระทำของ ร.อ.ธรรมนัส เป็นการส่งสัญญาณเตือนรัฐบาลหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ ไม่ได้ดูขนาดนั้น ส่วนจะสามารถคุมได้หรือไม่หากออกไปแล้วเพราะเมื่ออยู่ในพรรคก็ไม่สามารถคุมได้ ตนยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐมีประชาธิปไตยสูง ไม่มีการควบคุมกัน พลังประชารัฐเป็นประชาธิปไตยไม่ได้สั่งการอะไรเลย ที่ผ่านมาให้อิสระมากๆ

ส่วนจะมีการสังคายนาพรรค หลัง ร.อ.ธรรมนัส ออกไปหรือไม่นั้น ตนคิดว่าก็แล้วแต่ผู้บริหารพรรค แต่ทุกคนต้องตระเตรียมตัวเอง ให้รู้ว่านี่คือการเมืองไม่ใช่ทำเพื่อตัวเองแต่ต้องทำเพื่อส่วนรวม ทำอย่างไรให้ส่วนรวมยอมรับได้ ถ้าเราไม่ทำหรือทำเหมือนเดิมก็อาจจะสู้คนอื่นเขาไม่ได้ ตนเชื่อว่ายังมีเวลาอยู่

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มสามมิตรยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ ตอบว่า แล้วแต่สื่อจะมอง เพราะสื่อก็เป็นคนวิเคราะห์ ตอนนี้สื่อพัฒนาไปมาก

Next Post

แบ่งเขตเลือกตั้ง 400 เขต กติกาใหม่! กกต. เคาะแต่ละจังหวัดเลือก ส.ส. ได้กี่คน

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ส่งเอกสารฉบับหนึ่งไปยังผู้อำนวยการเลือกตั้งแต่ละจังหวัดทั่วประเทศและกรุงเทพมหานคร เมื่อวันอังคาร (1 ก.พ.) ระบุว่าขณะนี้มีการแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ตามกฎหมายใหม่แล้ว เป็น 400 เขต จากเดิม 350 เขต พร้อมระบุว่าแต่ละจังหวัดมี ส.ส. ได้ทั้งหมดกี่คน โดยใช้ […]