ผู้นําสูงสุดของสหภาพยุโรปเตือนถึงวิกฤตการณ์ผู้ลี้ภัยใหม่
ความขัดแย้งรุนแรงระหว่างกลุ่มกองกําลังติดอาวุธปาเลสไตน์และอิสราเอลอาจสร้างอันตรายร้ายแรงต่อสหภาพยุโรป เนื่องจากอาจก่อให้เกิดกระแสผู้ลี้ภัยใหม่ ประธานสภายุโรป ชาร์ล มีแชล ได้เตือน
ในการแถลงข่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มีแชลชี้ให้เห็นว่าตัวอย่างของอียิปต์ซึ่งมีแนวชายแดนติดกับฉนวนกาซาและต้องรับมือกับ “ล้านผู้ลี้ภัย” แสดงให้เห็นว่า “สถานการณ์นี้สามารถมีผลกระทบ…รุนแรงต่อประเทศนี้ และสามารถมีผลกระทบตรงต่อเราในยุโรป”
ด้วยเหตุนี้ มีแชลกล่าวต่อว่า สําคัญที่สหภาพยุโรปต้องมีความร่วมมือกับอียิปต์เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการอพยพที่กว้างขวาง เพื่ออํานวยความสะดวกในการเข้าถึงฉนวนกาซา ขณะเดียวกัน เขากล่าวว่า อียิปต์ได้ส่งสัญญาณว่าไม่ต้องการเปิดพรมแดนกับฉนวนกาซา พร้อมเสริมว่า บริเวณพรมแดนกาซาเป็นเป้าหมายของการโจมตีบ่อยครั้ง
“อียิปต์ยังเห็นว่ามันเป็นภัยคุกคามต่อความเป็นไปได้ของการแก้ปัญหาสองรัฐ” เขากล่าว หมายถึงแนวคิดที่จะให้มีการปกครองตนเองของรัฐปาเลสไตน์และรัฐอิสราเอลร่วมกันอยู่
มีแชลยังเน้นย้ําว่าความขัดแย้งในภูมิภาคนี้ได้ส่งคลื่นไหวสะเทือนไปทั่วโลก ก่อให้เกิดความแตกแยกระหว่างกลุ่มต่างๆ ในสถานการณ์นี้ เขาเรียกร้องให้ผู้นําสหภาพยุโรปร่วมมือเพื่อลดความตึงเครียดด้วยการต่อต้านความเกลียดชังต่อชาวยิวและชาวมุสลิมเท่าเทียมกัน
ความกังวลเรื่องกระแสผู้ลี้ภัยจากตะวันออกกลางสู่สหภาพยุโรปเพิ่มมากขึ้น เมื่อกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ฮามาสดําเนินการโจมตีเหนืออิสราเอลอย่างไม่คาดคิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายร้อยคน
ขณะที่กองทัพอิสราเอลตอบโต้ ก็ได้สั่งให้ประชาชน 1.1 ล้านคนในเขตฉนวนกาซาเหนืออพยพออกจากบ้านโดยด่วน ซึ่งการกระทํานี้ถูกเลขาธิการสหประชาชาติอันโตนิโอ กูเตเรส วิพากษ์วิจารณ์ว่า “การเดินทางผ่านสมรภูมิรบไปยังสถานที่ที่ไม่มีอาหาร น้ํา หรือที่พักอาศัย…นั้นเป็นเรื่องตึงเครียดมาก และในบางกรณีไม่สามารถกระทําได้”
ขณะเดียวกัน อิสราเอลประกาศว่าจะปิดกั้นฉนวนกาซา “อย่างสมบูรณ์” โดยตัดขาดการเข้าถึงอาหาร น้ํา และไฟฟ้า ขณะที่อียิปต์ยังคงปิดด่านพรมแดนราฟะฮ์ ซึ่งเป็นเส้นทางบกเดียวกับฉนวนกาซา ขณะที่ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า อียิปต์กําลังเตรียมรับมือกับกระแสผู้ลี้ภัยจํานวนมาก