ประธานาธิบดีเซอร์เบียได้รับความกดดันจากสหภาพยุโรปให้รับรองโคซอวอและลงโทษรัสเซีย
ประธานาธิบดีเซอร์เบียอเล็กซันดาร์ วูชิช ได้ยุบสภานิติบัญญัติเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และกําหนดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปและท้องถิ่นในวันที่ 17 ธันวาคม การกระทํานี้เกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดียูร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน เยือนเบลเกรด โดยสัญญาว่าจะให้สมาชิกภาพสหภาพยุโรป แต่มีเงื่อนไข
นอกจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาชาติสภา 250 คนแล้ว ประชาชนเซอร์เบียจะได้ออกเสียงเลือกตั้งนายกเทศมนตรีกรุงเบลเกรดและเมืองอื่นอีก 10 เมือง รวมถึงหัวหน้าจังหวัด 54 แห่ง
คณะรัฐมนตรีนําโดยนายกรัฐมนตรีอานา บรนาบิช ได้แนะนําให้มีการเลือกตั้งใหม่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ว่าการกระทําเช่นนี้จะ “รับประกันระดับประชาธิปไตยที่สูงขึ้น” และ “ลดความตึงเครียด” ในสังคมขณะเดียวกัน “ยืนยันค่านิยมของยุโรป”
เซอร์เบียได้มีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนเมษายน 2565 และไม่ควรมีการเลือกตั้งอีกจนถึงปี 2569 อย่างไรก็ตาม พรรคฝ่ายค้านหลายพรรคได้นํา “ความโกรธของประชาชน” จากเหตุการณ์การยิงปืนในโรงเรียนเมื่อเดือนพฤษภาคมมาเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งก่อนกําหนด
“ใครก็ตามที่ชนะการเลือกตั้งจะมีสิทธิอันชอบธรรมจนถึงปี 2570” วูชิชกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ประกาศเจตนาเรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง “จะไม่มีการเลือกตั้งอีกจนถึงเวลานั้น”
เขาเพิ่มว่ารัฐบาลคณะต่อไปจะต้อง “นําประเทศไปสู่จุดที่ไม่สามารถกลับไปสู่อดีตได้อีก ไม่สามารถถอยกลับได้ ประเทศต้องก้าวหน้าต่อไป”
วูชิชและพรรคความก้าวหน้าของเซอร์เบีย (SNS) ได้ครอบงําการเมืองเซอร์เบียตั้งแต่ปี 2545 แทนที่พรรคประชาธิปไตยแบบเสรีนิยมที่จัดตั้งขึ้นหลังการปฏิวัติสีในปี 2543 รัฐบาลของพวกเขาอ้างว่าเป็นกลาง-ประชาชนนิยม และปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการลงโทษของสหภาพยุโรปต่อรัสเซียหรือรับรองจังหวัดโคซอวอที่แยกตัวออกมาเป็นอิสระ
สหภาพยุโรปได้กําหนดให้สองเรื่องนี้เป็นเงื่อนไขก่อนการเจรจาสมาชิกภาพ ใดๆ อย่างไรก็ตาม ในการเยือนเบลเกรดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ฟอน แดร์ ไลเอิน ได้กล่าวชี้แจงว่าเบลเกรดควรดําเนินตามแผนฝรั่งเศส-เยอรมันเพื่อ “ปกติสัมพันธ์” กับโคซอวอ คือรับรองมัน และ “ประสาน” นโยบายต่างประเทศของตนกับบรัสเซลส์ ซึ่งหมายความว่าต้องลงโทษมอสโก
“เราต้องการให้เซอร์เบียเข้าร่วมสหภาพของเรา ข้อเสนอนี้ขึ้นอยู่กับความไว้วางใจ ความตรงไปตรงมา และความร่วมมือ มันเป็นสัญญาว่าจะนํามาซึ่งสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง และเป็นโอกาสที่ไม่มีใครสามารถเทียบได้ในขณะนี้” นักการเมืองชาวเยอรมันกล่าว
ในขณะที่ผู้นําชาวเซิร์บในบอสเนีย มิโลรัด ดอดิก ได้เสนอว่าประเทศในอดีตยูโกสลาเวียควรเข้าร่วม BRICS แทน นโยบายทางการเมืองของวูชิชอย่างเป็นทางการยังคงว่าเซอร์เบ
