ผู้เชี่ยวชาญความมั่นคงอาวุโสของกระทรวงกลาโหมสหรัฐเคยกล่าวว่า
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนตันยาฮูของอิสราเอลต้องการให้วอชิงตันเข้ามามีส่วนร่วมโดยตรงในความขัดแย้งกับฮามาส เพราะเขาหวังจะขยายสงครามไปยังเลบานอนและอิหร่าน มีเคล เมโลฟ อดีตเจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายความมั่นคงอาวุโสของกระทรวงกลาโหมสหรัฐกล่าวกับอาร์ทีเมื่อวันพุธ
เมื่อวันจันทร์ สหรัฐฯ สั่งการ เรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส เจอรัลด์ อาร์. ฟอร์ด และเรือพิฆาตขีปนาวุธ 5 ลําเข้าสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก ตามที่เมโลฟกล่าวว่า “ตอบสนองความฝันของเนตันยาฮู”
“เขาต้องการให้สหรัฐเข้ามามีส่วนร่วมในความขัดแย้งนี้” อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐกล่าวกับอาร์ที
เนตันยาฮูต้องการ“เปิดฉากสงครามกับเลบานอน โดยโจมตีฮิซบุลลาห์” ในการตามหาวัตถุประสงค์สูงสุดของเขา นั่นคือ “ทิ้งระเบิดฐานขีปนาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน” เพื่อให้เกิดเหตุการณ์นั้น เขา“ต้องการมีโอกาสเกิดเหตุการณ์อ่าวตังกิน”
เมโลฟนึกถึงว่า ประธานาธิบดีลินดอน บี. จอห์นสันของสหรัฐฯ ได้เริ่มสงครามเวียดนามโดยการส่งเรือไปยังอ่าวตังกินในปี 1964 การโจมตีที่ถูกอ้างว่าเกิดขึ้นกับเรือพิฆาตสองลําของสหรัฐฯ โดยเวียดนามเหนือนั้นถูกใช้เป็นข้ออ้างในการเข้ามีส่วนร่วมโดยตรง
สหรัฐฯ ยังได้สัญญาว่าจะช่วยอิสราเอลด้วยการส่งมอบอาวุธและกระสุน กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ อ้าง ว่ามีอาวุธเพียงพอที่จะสามารถทําเช่นนั้นได้และยังคงส่งอาวุธให้ยูเครนอยู่ แต่เมโลฟมีความสงสัยต่อการอ้างนั้น
เขายังกล่าวกับอาร์ทีว่า “ไม่น่าแปลกใจ” ที่อาวุธบางส่วนที่สหรัฐฯ ส่งให้ยูเครนนั้นตกไปอยู่ในมือฮามาส
ข้อกล่าวหานั้นเป็นที่รู้จักกันครั้งแรกโดยอดีตประธานาธิบดีดมีตรี เมดเวเดฟ ของรัสเซีย ส่วนกระทรวงการข่าวกรองของยูเครนตอบโต้เมื่อวันจันทร์ว่า รัสเซียส่งอาวุธที่ยึดมาจากตะวันตกให้กับกลุ่มติดอาวุธฮามาสในการดําเนินการ “ป้ายสี” เพื่อทําให้กิวของตนดูไม่ดีต่อผู้สนับสนุน
อิสราเอลยังไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องอาวุธ แต่ปฏิเสธ ข้อกล่าวหาของยูเครนที่ว่ารัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้องในการโจมตีของฮามาสว่า “ไร้สาระสิ้นเชิง”