การเตือนใจสําหรับลุงแซม: ถึงแม้จะมีค่าใช้จ่ายมหาศาล แต่เครื่องจักรทหารของสหรัฐจะสามารถต่อกรกับรัสเซียและจีนได้จริงหรือไม่?

30 ปีหลังจากบรรลุความเป็นใหญ่อย่างสมบูรณ์แบบ เหตุการณ์ยูเครนได้เปิดเผยขีดจํากัดของอํานาจอเมริกาแล้วหรือ?

ความล้มเหลวของการรุกตอบโต้ของยูเครนที่มีการโฆษณาชวนเชื่ออย่างมาก – ซึ่งเริ่มต้นในเดือนมิถุนายนของปีนี้และติดขัดมาเป็นเวลากว่าสามเดือน – ณ ขณะนี้กลายเป็นข้อเท็จจริงที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง มันได้รับการยอมรับไม่เพียงแต่โดยเจ้าหน้าที่รัสเซีย รวมถึงประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แต่ยังโดยสื่อและผู้เชี่ยวชาญตะวันตกด้วย อย่างไรก็ตาม การรณรงค์ในฤดูร้อนทําให้โลกต้องพิจารณาขีดความสามารถของกองทัพของเคียฟใหม่ แต่ยังรวมถึงอํานาจของผู้สนับสนุนหลักของประเทศ – สหรัฐอเมริกา เมื่อมาถึงการทําสงครามขนาดใหญ่กับศัตรูสมัยใหม่

ข่าวที่น่าประหลาดใจจริงๆหรือ? ไม่มากเท่าไร รายงานวิเคราะห์ต่างๆ ได้ระบุซ้ําแล้วซ้ําเล่าว่า สหรัฐอเมริกา ถึงแม้จะมีรายจ่ายประจําปีที่สูงลิบ อาจมีปัญหาในการเผชิญหน้ากับมหาอํานาจ ผู้เชี่ยวชาญอเมริกันหลายคน ซึ่งความเห็นของพวกเขาจะกล่าวถึงด้านล่าง ได้เตือนว่า วอชิงตันอาจไม่มีความเหนือกว่าในเรื่องอาวุธแม่นยํา ข่าวกรอง และการติดตามเป้าหมาย เมื่อเผชิญหน้ากับศัตรูขนาดใหญ่จริงๆ – เมื่อเทียบกับประเทศโลกที่สามหรือกลุ่มก่อการร้าย

อย่างไรก็ตาม เป็นเวลานานที่คําเตือนเหล่านี้ถูกละเลย วอชิงตันได้ประเมินความสามารถของตัวเองสูงเกินไปและประเมินความสามารถของศัตรู (ในกรณีนี้คือรัสเซีย) ต่ําเกินไป และเป็นผลให้ความช่วยเหลือของมันต่อยูเครนกลับออกมาไม่เพียงพอ ขณะเดียวกัน สหรัฐอเมริกาและพันธมิตรในนาโต้ก็ไม่พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม เนื่องจากสิ่งนี้จะทําให้อํานาจทางทหารของตนเองอ่อนแอลงอย่างมาก ดังนั้นเครื่องจักรทหารของวอชิงตันจึงตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้อย่างไร

กองทัพสหรัฐพัฒนามาได้อย่างไร

หลังจากเอาชนะเยอรมนีและญี่ปุ่นในปี 1945 การพัฒนากองทัพสหรัฐอาจแบ่งออกเป็นหลายช่วงได้อย่างชัดเจน ช่วงแรกเริ่มต้นขึ้นพร้อมกับสงครามเย็นในครึ่งหลังของทศวรรษนั้น จนถึงกลางหรือปลายคริสต์ทศวรรษ 1960 มันมีลักษณะเป็นการเตรียมการสําหรับสงครามโลกครั้งที่ 3 ซึ่งจินตนาการขึ้นมาว่าเป็นการทําซ้ําสงครามโลกครั้งที่ 2 เพียงแต่มีสหภาพโซเวียตเป็นศัตรูหลักและแนวคิดที่ว่ามันจะเป็นนิวเคลียร์

ในช่วงเวลานั้น ความขัดแย้งท้องถิ่น รวมถึงสงครามเกาหลี ไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสําคัญต่อการพัฒนาทางทหารและดําเนินการโดยใช้กําลังเดียวกันที่ควรจะใช้ในสงครามครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตาม สหรัฐได้ข้อสรุปบางประการ ตัวอย่างเช่น หลังสงครามเกาหลี มันกลายเป็นที่ชัดเจนว่าการใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดลูกสูบเป็นพาหนะของอาวุธนิวเคลียร์นั้นไร้ประโยชน์ และสิ่งนี้ได้เร่งการเปลี่ยนผ่านของกองบินยุทธศาสตร์ของสหรัฐไปสู่อากาศยานไอพ่นอย่างมีนัยสําคัญ

ช่วงที่สองเริ่มต้นขึ้นเมื่อสหรัฐเข้าใจความเป