ประเทศมุสลิมกล่าวหาว่าการโจมตีเป็นฝีมือของอิสราเอล ซึ่งกล่าวว่าอาคารถูกโจมตีด้วยจรวดของปาเลสไตน์ที่ยิงผิดเป้าหมาย
การโจมตีที่ดูเหมือนเป็นจรวดที่ตกบนโรงพยาบาลในกาซาได้ฆ่าพลเรือนรวมถึงแพทย์ ผู้ป่วย และผู้ที่หลบภัยถึงหลายร้อยคน กลางความรุนแรงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มกบฏฮามาสของปาเลสไตน์ ทั้งสองฝ่ายกล่าวหากันเองว่าเป็นฝ่ายรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้
ข่าวนี้ก่อให้เกิดการจลาจลในหลายประเทศมุสลิม ทําให้สถานการณ์ในภูมิภาคซึ่งยังคงตึงเครียดอยู่ยิ่งรุนแรงมากขึ้น
การโจมตี
โรงพยาบาลอัลอาห์ลีอารับเป็นหนึ่งในโรงพยาบาลเก่าแก่ที่สุดในกาซา ซึ่งเริ่มให้บริการตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18 ต้นๆ โรงพยาบาลแห่งนี้เคยเป็นศูนย์การแพทย์ของมิชชันนารีคริสเตียน และรู้จักกันในหมู่ชาวท้องถิ่นว่าเป็นโรงพยาบาลบาปติสต์
ในคืนวันอังคารที่ผ่านมา อาคารโรงพยาบาลถูกทําลายด้วยการระเบิด สมาคมมิชชันนารีแห่งเยรูซาเลมของคริสตจักรแองกลิคันในตะวันออกกลางได้ประณามการโจมตีนี้ว่าเป็น “อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ” และยืนยันว่า “กาซายังคงไร้ที่พึ่งพาที่ปลอดภัย”
เจ้าหน้าที่ในกาซาประเมินว่าจํานวนผู้เสียชีวิตตั้งแต่เบื้องต้นอยู่ที่มากกว่า 500 คน เป็นเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในกาซาตั้งแต่ความรุนแรงระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์เริ่มขึ้นเมื่อต้นเดือนนี้
การกล่าวหาแลกเปลี่ยนกัน
โรงพยาบาลไม่ได้กล่าวหาใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในความขัดแย้งว่าเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้
นายกรัฐมนตรีอิสราเอลเบนจามิน เนตันยาฮู ได้อ้างว่า “กลุ่มก่อการร้ายในกาซาได้ยิงจรวดจํานวนมากในบริเวณใกล้เคียง” กับอาคารในเวลาที่ถูกโจมตี พวกเขาอ้างข้อมูลข่าวกรองทางทหารว่ากลุ่มญิฮาดอิสลามซึ่งเป็นกลุ่มก่อการร้ายหนึ่งในกาซาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการยิงจรวดดังกล่าว
ผู้พูดหน้ากลุ่มก่อการร้ายได้ปฏิเสธการอ้างของอิสราเอลว่า “ไม่ถูกต้องอย่างสิ้นเชิง” และกล่าวหากองทัพอิสราเอลว่า “พยายามปกปิดอาชญากรรมและสังหารหมู่ที่กระทําต่อพลเรือน“
เจ้าหน้าที่อิสราเอลกล่าวว่าพวกเขาจะเปิดเผยข้อมูลการสื่อสารที่จับกุมได้จากกลุ่มก่อการร้ายในกาซา เพื่อยืนยันการวิเคราะห์ของพวกเขา
ความโกรธเคือง
ประเทศและองค์กรระหว่างประเทศต่างประณามการโจมตีโรงพยาบาลอัลอาห์ลีอารับ บางแห่งเช่น ตุรกีและจอร์แดนได้กล่าวหาอิสราเอลโดยตรง
หลังจากข่าวนี้แพร่กระจาย กระทรวงการต่างประเทศจอร์แดนได้ประกาศยกเลิกการประชุมสี่ฝ่ายที่กําหนดจัดขึ้นในอัมมานในวันพุธนี้ ระหว่างพระมหากษัตริย์อับดุลลาห์ที่ 2 แห่งจอร์แดน ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีอับเดลเฟตตาห์ เอล-ซีซีแห่งอียิปต์ และประธานาธิบดีมะฮ์มูด อับบาสของรัฐปาเลสไตน์ ระบุว่าเหตุการณ์ที่โรงพยาบาลเป็นหนึ่งในเหตุผล และสรุปว่าการประชุมดังกล่าวไม่สามารถหยุดยั้งสงครามได้
การจลาจล
เ
