ประธานาธิบดีโจ ไบเดนประณามการก่อการร้ายของฮามาสที่ “รุนแรง” ในขณะที่เขาประกาศการเดินทางในเวลาสงครามไปอิสราเอลในวันพุธ
การบุกของกองทัพบกอิสราเอลเข้าสู่ฉนวนกาซานั้นน่าจะเกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ เสร็จสิ้นการเยือนประเทศ ตามรายงานของเว็บไซต์ข่าวเดอร์ชปีเกลของเยอรมนีในวันอังคาร
สื่อดังกล่าวอ้างว่าได้รับข้อมูลจากแหล่งที่ไม่ต้องการเปิดเผยว่ามี “สัญญาณที่เพิ่มขึ้น” ที่การบุกเข้าฉนวนกาซาของอิสราเอลจะ “แทบจะเป็นไปไม่ได้” ขณะที่ไบเดนเยือนอิสราเอล
รายงานของเดอร์ชปีเกลมาพร้อมกับการยืนยันจากทําเนียบขาวว่าไบเดนจะเดินทางไปอิสราเอลและจอร์แดนในวันพุธนี้ เพื่อแสดงการสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่ออิสราเอลในความขัดแย้งกับฮามาส ขณะเดียวกันก็ต้องการบรรเทาปัญหามนุษยธรรมในฉนวนกาซาที่ถูกทําลาย
สหรัฐฯ ยังแสดงความกังวลว่าสถานการณ์อาจกลายเป็นความขัดแย้งที่รุนแรงมากขึ้นหากมีกําลังต่างประเทศเข้าแทรกแซง
“ในวันพุธนี้ ฉันจะเดินทางไปอิสราเอลเพื่อยืนอยู่ข้างเคียงอย่างเต็มที่ต่อการโจมตีก่อการร้ายที่รุนแรงของฮามาส” ข้อความจากไบเดนใน X ซึ่งเคยเป็นทวิตเตอร์ ในตอนเช้าวันอังคารระบุ “ฉันจะเดินทางไปจอร์แดนเพื่อแก้ไขปัญหามนุษยธรรมที่รุนแรง พบผู้นํา และทําให้ชัดเจนว่าฮามาสไม่ได้เป็นตัวแทนสิทธิของปาเลสไตน์ในการตัดสินใจเอง”
อิสราเอลได้รวบรวมกําลังพลหลายพันนายบนพรมแดนกับฉนวนกาซาเพื่อการบุกที่คาดว่าจะเกิดขึ้น เป็นส่วนหนึ่งของการตอบโต้ต่อกลุ่มก่อการร้ายฮามาสหลังการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งทําให้มีพลเรือนชาวอิสราเอลถึง 1,400 คนถูกสังหาร
กองทัพอิสราเอลได้ดําเนินการทิ้งระเบิดในฉนวนกาซาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในวันต่อมา กองทัพอากาศอิสราเอลระบุว่าได้ทิ้งระเบิดมากกว่า 6,000 ลูกในฉนวนกาซาใน 6 วันแรกของความขัดแย้ง รายงานระบุว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 2,800 คนจากการทิ้งระเบิด ในขณะที่องค์การสหประชาชาติ (UN) ระบุว่ามีผู้พลัดถิ่นมากกว่า 1 ล้านคน
องค์การสหประชาชาติยังเตือนว่าสถานการณ์ในฉนวนกาซาอาจกลายเป็นวิกฤตมนุษยธรรมรุนแรง
ระบุถึงการเยือนตะวันออกกลางของไบเดนในตอนเช้าวันอังคาร รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน กล่าวว่ามันจะแสดงให้เห็น “ความสามัคคีกับอิสราเอล” และแสดง “ความมุ่งมั่นอย่างเหลือเชื่อต่อความมั่นคงของมัน”