
(SeaPRwire) – Johnson & Johnson (NYSE: JNJ) ซึ่งรู้จักกันในธุรกิจยาและอุปกรณ์แพทย์ ได้ประกาศแผนการขายหุ้นส่วนที่เหลือสุดท้ายร้อยละ 9.5 ใน Kenvue ซึ่งเป็นการขายหุ้นสุดท้ายของบริษัทในบริษัทสุขภาพผู้บริโภคที่ถูกแยกออกมาปีที่แล้ว การขายครั้งนี้เกี่ยวข้องกับหุ้น Kenvue จํานวน 182.3 ล้านหุ้น มูลค่าประมาณ 3.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามคํานวณของรอยเตอร์
การเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงทางยุทธศาสตร์ของ Johnson & Johnson ซึ่งได้รับการบรรยายว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงองค์กรที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ 137 ปีของบริษัท บริษัทมีเป้าหมายเพื่อมุ่งเน้นมากขึ้นที่ธุรกิจยาและอุปกรณ์แพทย์หลักของตน ในเดือนพฤษภาคมปีก่อนหน้านี้ Johnson & Johnson ได้ขายหุ้น Kenvue จํานวน 172.8 ล้านหุ้น เพื่อสร้างรายได้ 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และลดสัดส่วนการถือหุ้นลงตามลําดับในเดือนต่อ ๆ มา
สําหรับการทําธุรกรรมครั้งนี้ Johnson & Johnson จะโอนหุ้นของตนไปให้กับ Goldman Sachs และ J.P. Morgan Securities เพื่อชําระหนี้สิน บริษัทเหล่านี้ร่วมกับ BofA Securities เป็นผู้จัดการกลุ่มหลักที่รับผิดชอบการขายหุ้น
บทความนี้ให้บริการโดยผู้ให้บริการเนื้อหาภายนอก SeaPRwire (https://www.seaprwire.com/) ไม่ได้ให้การรับประกันหรือแถลงการณ์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบทความนี้
หมวดหมู่: ข่าวสําคัญ ข่าวประจําวัน
SeaPRwire จัดส่งข่าวประชาสัมพันธ์สดให้กับบริษัทและสถาบัน โดยมียอดการเข้าถึงสื่อกว่า 6,500 แห่ง 86,000 บรรณาธิการและนักข่าว และเดสก์ท็อปอาชีพ 3.5 ล้านเครื่องทั่ว 90 ประเทศ SeaPRwire รองรับการเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์เป็นภาษาอังกฤษ เกาหลี ญี่ปุ่น อาหรับ จีนตัวย่อ จีนตัวเต็ม เวียดนาม ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เยอรมัน รัสเซีย ฝรั่งเศส สเปน โปรตุเกส และภาษาอื่นๆ
ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางยุทธศาสตร์เหล่านี้ แต่หุ้นของ Kenvue ก็ประสบกับภาวะถดถอย ลดลง 1.2% ในการซื้อขายก่อนเปิดตลาด และลดลง 4.6% เมื่อเทียบกับต้นปี พร้อมกับลดลงใกล้ร้อยละ 8 จากราคาประกาศเสนอขายเมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 ในขณะเดียวกัน หุ้นของ Johnson & Johnson ยังคงมั่นคงตามปกติหลังการประกาศ