เมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวผ่าน PM PODCAST ว่า เรื่องการปรับ ครม. ได้หารือกับพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว และเป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีที่จะต้องตัดสินใจขั้นสุดท้ายตามรายชื่อที่เสนอขึ้นมา คาดว่าจะชัดเจนภายในเดือน มี.ค. อย่างเร็วที่สุด ในระหว่างนี้ขออย่ากังวล รัฐบาลยังทำงานได้ตามปกติ เพราะทุกอย่างมีกฎหมายและระเบียบ มีการรักษาการทุกกระทรวงอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ขอฝากในเรื่องความรักความสามัคคี มีจิตสำนึก มีความรับผิดชอบ เผื่อแผ่แบ่งปัน นั่นคือประเทศไทย เราเคยมีสิ่งเหล่านี้มาเป็นระยะเวลายาวนาน เราต้องรัก ต้องสามัคคี ไม่แตกแยกกัน เคารพกฎหมาย นั่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด กฎหมายก็ร่างกันมาแล้ว ออกมาแล้ว มีกฎหมายทุกตัว กรุณาช่วยกันรักษากฎหมายด้วย จะไม่ไปทำให้ความขัดแย้งขยายตัวต่อไป ทุกประเทศก็ต้องใช้กฎหมาย
- ไทยป่วยโควิดเพิ่ม 64 ราย ติดเชื้อในประเทศ 54 คน พบใน 5 จว.
- "ประวิตร"เผยไม่มีรัฐมนตรีกปปส.ในพปชร.ยังไม่ได้คุย"ณัฏฐพล-พุทธิพงษ์"
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึง วัคซีนโควิด-19 ว่า เราเป็นประเทศแรกที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคจากจีนในเชิงพาณิชย์ ไม่ใช่การบริจาค แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนที่ช่วยเหลือดูแลกันมาโดยตลอด ทั้งนี้ ได้ทยอยฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์แล้วกว่า 3 พันคน ซึ่งในกลุ่มนี้พบมีอาการข้างเคียงหลังฉีดเล็กน้อย ถือว่าค่อนข้างดี ส่วนภาคเอกชนที่ต้องการนำเข้าวัคซีนนั้น กระทรวงสาธารณสุขและรัฐบาลไม่ปิดกั้น แต่ต้องขอขึ้นทะเบียนนำเข้าวัคซีนกับ อย. เพราะเป็นวัคซีนที่อนุญาตให้ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินเท่านั้น ซึ่งตอนนี้มีผู้ยื่นขอขึ้นทะเบียนแล้ว 4 รายคือ 1.บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า 2.องค์กรเภสัชกรรม 3.บริษัทแจนเซ่น ซีแลค จำกัด และ 4.บริษัท ไบโอ จีนีเทค จำกัด
ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไม่มีการฉีดวัคซีนให้บุคคลวีไอพีที่จังหวัดเชียงใหม่ตามกระแสข่าว โดยทุกอย่างเป็นไปตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ ขอให้ประชาชนสบายใจ พร้อมระบุว่า เมื่อวัคซีนเข้ามาในประเทศจะทำให้สถานการณ์โควิด-19 ในไทยดีขึ้น แต่ยังต้องมีมาตรการในการควบคุมโรค ควบคู่กันด้วย