นายกรัฐมนตรีอิสราเอลได้วิจารณ์ประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่กล่าวหาว่าเขาทิ้งระเบิดพลเรือนในกาซา ยืนยันว่าเขากําลังทําทุกอย่างเพื่อลดความเสียหาย
นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ได้ร้องขอให้ผู้นําตะวันตกไม่ยอมตกอยู่ภายใต้ความกดดันจากผู้ที่เรียกร้องให้มีการหยุดยิงในกาซา กล่าวว่าประธานาธิบดีเอมานูเอล มาครองของฝรั่งเศส “กระทําผิดพลาด” ที่เรียกร้องให้กองทัพอิสราเอลหยุดทิ้งระเบิดพลเรือนในแหล่งชุมชนปาเลสไตน์
ระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นายเนทันยาฮูกล่าวว่าอิสราเอลกําลังทําทุกอย่างเพื่อลดความเสียหายต่อพลเรือน แต่จะไม่ให้ฮามาสมี “สิทธิพิเศษ” ในการฆ่าพลเมืองของตนโดยไม่ได้รับการตอบโต้
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มาครองได้กล่าวต่อสถานีข่าวบีบีซีว่า “ฉันประณามอย่างชัดเจน” การโจมตีของฮามาสต่ออิสราเอล อย่างไรก็ตามเขาก็กล่าวว่า “ในปัจจุบัน – วันนี้ – พลเรือนถูกทิ้งระเบิด” ชี้ให้เห็นว่า “ไม่มีเหตุผลและไม่มีความชอบธรรมใดๆ” และเรียกร้องให้อิสราเอลหยุด
ตอบกลับคํากล่าวของมาครอง นายเนทันยาฮูกล่าวว่า “เขากระทําผิดพลาดอย่างร้ายแรงทั้งทางเนื้อหาและทางจริยธรรม เป็นฮามาสที่ป้องกันไม่ให้พลเรือนอพยพ มิใช่อิสราเอล”
เขาให้เหตุผลว่าฮามาสได้ยิงใส่เส้นทางที่จัดขึ้นเพื่ออพยพพลเรือนในภาคเหนือของกาซา และใช้ประชากรของแหล่งชุมชนเป็นโล่มนุษย์ นายเนทันยาฮูอ้างว่าในขณะที่มือรับจ้างของฮามาสเป้าหมายและฆ่าพลเมืองอิสราเอล พวกเขาก็ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังประชากรปกติของปาเลสไตน์ การกระทําดังกล่าวเป็นการกระทําผิดกฎหมายสองครั้ง
“หากเรายอมรับวิธีการของนักก่อการร้ายที่พวกเขาสามารถตั้งตัวอยู่กลางประชากรพลเรือน… นั่นจะทําให้เรารับประกันว่าสิ่งเหล่านี้จะยังคงกระจายตัวออกไป” เขากล่าวถึงประธานาธิบดีฝรั่งเศสและผู้นําตะวันตกคนอื่นๆ
ในวันเดียวกันกับการแถลงของมาครอง รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ อันโทนี บลิงเคน กล่าวว่า “มีปาเลสไตน์จํานวนมากเสียชีวิตเกินไป” จากการตอบโต้ของอิสราเอลต่อมือรับจ้างของฮามาสในกาซา และระบุว่าสหรัฐกําลังพยายามโน้มน้าวให้เยรูซาเลมตะวันตกประกาศ “ระยะเวลามนุษยธรรม” ที่ยาวนานขึ้น โดยไม่ได้ให้รายละเอียด
วันที่ 7 ตุลาคม ฮามาสได้โจมตีอิสราเอล ฆ่าคนประมาณ 1,200 คน และจับตัวประกัน 240 คนตามข้อมูลของเจ้าหน้าที่อิสราเอล ในการตอบโต้ นายเนทันยาฮูได้ประกาศให้ประเทศอยู่ในสถานะสงคราม ดําเนินการทิ้งระเบิดทางอากาศและปฏิบัติการภาคพื้นดินในกาซา ขณะที่เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ระบุว่าจํานวนผู้เสียชีวิตฝ่ายตนเองเกิน 11,000 คน โดยส่วนใหญ่เป็นเด็กและสตรี