เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 64 นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า ในขณะนี้สังคมกำลังสับสนเรื่องแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า “รัฐสภามีอำนาจหน้าที่และอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ โดยต้องให้ประชาชนผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ ได้ลงประชามติเสียก่อนว่าประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และเมื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว ต้องให้ประชาชนลงประชามติเห็นชอบหรือไม่ กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกครั้งหนึ่ง”
เนื่องจากแต่ละฝ่ายก็ตีความกันไปคนละทาง โดยเฉพาะ ส.ว. และรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เสนอให้โวตวาระ 3 โดยการงดออกเสียงเพื่อให้เรื่องจบไป ซึ่งถือเป็นการตัดตอนการแก้ไขรัฐธรรมนูญและตีความความเห็นของศาลรัฐธรรมนูญเข้าข้างตนเองที่ต้องการคว่ำการร่างรัฐธรรมนูญใหม่
นายเมธา กล่าวว่า ถ้าไม่มีการบิดเบือนตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว รัฐสภาสามารถเดินหน้าโหวตวาระ 3 ได้เลย ตามมาด้วยการประชามติให้แก้ไขรัฐธรรมนูญโดยการเลือกตั้ง สสร.หรือไม่ตามมาตรา 256 (8) ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นชอบศาลและตามหลักกฎหมายที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน
ถ้าประชามติผ่านค่อยทูลเกล้าฯตามลำดับขั้นตอน เพราะการเสนอให้จัดทำประชามติก่อนการเสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ไม่มีบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายใดๆ เขียนไว้เลย ศาลเสนอให้มีการประชามติก่อนร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เท่านั้น ซึ่งก็คือการประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขมาตรา 256 นี้เพื่อให้มี สสร.มาทำหน้าที่แทนรัฐสภานั่นเอง
- "ประวิตร"ลั่น16มี.ค.ได้ข้อสรุปส่งชาวบางกลอยกลับบ้าน
- "ประวิตร"ลั่นไม่ได้คุย "บิ๊กโจ๊ก" ปมเตรียมกลับสตช.
“หากเป็นไปตามเกมของผู้มีอำนาจที่พยายามจะคว่ำการโหวตวาระ 3 โดยใช้สมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ผมเห็นว่ารัฐบาลกำลังหลอกลวงประชาชน เพราะร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่าน 2 วาระมานั้นส่วนหนึ่งก็เป็นข้อเสนอของรัฐบาลเองที่เสนอควบคู่มา แล้วจะมาโหวตคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของตนเองทำไม หรือกลัวว่ากระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไปจะทำให้ตนเองไม่ได้สืบทอดอำนาจต่อ”
“ทำให้ต้องตั้งข้อสงสัยต่อว่า รัฐบาลมีนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญที่แถลงต่อรัฐสภา แต่ทำไมมีสมาชิกออกมาขัดขวางนโยบายของรัฐบาลเสียเอง โดยเฉพาะ ส.ว.ที่ผู้มีอำนาจเลือกสรรเข้ามาทำหน้าที่เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ผู้นำกลุ่ม 3 ป. ไม่หลอกลวงประชาชนแล้วจะเรียกว่าอะไร ถ้าไม่ตั้งใจมาหลอก นายกรัฐมนตรีต้องแสดงความจริงใจสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามนโยบายที่แถลงต่อสภา และจัดการปัญหาคนในที่ออกมาขัดขวางให้งดเว้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่าทำผิดรัฐธรรมนูญหลายรอบ เพราะจะสะดุดขาตนเองทั้งขบวน โดยอย่าปล่อยให้ ส.ว.โหวตคว่ำนโยบายของรัฐบาลเสียเอง”
“ในการประชามติ ผมขอเสนอให้มีคำถามพ่วงให้ชัดเจนไปเลยว่า ต้องการให้ ส.ว.โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีร่วมกับ ส.ส.อีกหรือไม่ หรือให้ยกเลิก ส.ว. ไปเลย หากเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตย เหมือนคำถามพ่วงในการประชามติรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ผ่านมา ที่ให้ ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรีได้ตามบทเฉพาะกาล และพล.อ.ประยุทธ์ หลอกลวงประชาชนว่าจะไม่สืบทอดอำนาจ”
“นอกจากนี้ผมขอเรียกร้องไปยังพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย ขอมีความเคลื่อนไหวและแสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนที่จะโหวตวาระ 3 เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยให้มี สสร. และเตรียมสละเรือได้แล้วหากรัฐบาลตระบัดสัตย์ในเรื่องนี้ เพราะ 7 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทำชาติติดหล่มมานานเกินไปแล้ว”นายเมธากล่าว